ถ้าหากใครที่ได้มา สุพรรณบุรี ต้องไม่พลาดที่จะแวะมาสักการะ หลวงพ่อเนียม แห่ง วัดน้อยบางปลาม้า แห่งนี้กัน เพราะวัดแห่งนี้เป็น วัดโบราณที่มีอายุกว่า 100 ปี และยังมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย อีกทั้งยังมีความเชื่อในเรื่องการมาขอพรกับหลวงพ่อเนียมให้ แคล้วคลาดปลอดภัย และ เมตตามหานิยม อีกด้วย ซึ่งในวันนี้ วัดดังเมืองไทย จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหลวงพ่อเนียม และ วัดดังสุพรรณบุรี แห่งนี้เองครับ
วัดน้อยบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี
ประวัติและความเป็นมาของวัด
วัดน้อย บางปลาม้า แห่งนี้เป็นวัดเก่าอายุกว่าร้อยปี มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ แต่ก็ไม่ปรากฏชื่อผู้สร้างเลยครับ โดยวัดนั้นตั้งอยู่ที่ตำบลโตกคราม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ติดกับริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ระหว่างอำเภอบางปลาม้า กับตัวจังหวัดสุพรรณบุรี และอยู่เลยไปทางด้านใต้ของตัวเมืองราว ๆ 8 กิโลมเตร ทางเส้นทางสายในเลียบแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันออกครับ
หลวงพ่อเนียม พระเกจิชื่อดัง
สมัยเมื่อราว ๆ ช่วงร้อยปีที่ผ่านมา วัดน้อยนั้นมีความเจริญสูงสุด เพราะได้มีท่านเจ้าอาวาสคือ พระมหาเกจิ – เถราจารย์ ผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านคันถธุระ วิปัสสนาธุระ และวิทยาคม ที่ชื่อว่า หลวงพ่อเนียม หรือ หลวงพ่อเนียม ธัมมโชติ หลวงปู่ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2372 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 3 ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัดสุพรรณบุรี
หลวงพ่อท่านได้รับความเคารพนับถืออย่างกว้างขวางในด้านปาฏิหาริย์ พระพุทธคุณของท่านมีมากมาย ทั้งในเรื่องมหาอุต ด้านคงกระพัน และการแคล้วคลาด ซึ่งแม้แต่สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสเทโว) แห่งวัดสุทัศน์เทพวราราม, หลวงปู่บุญ แห่งวัดกลางบางแก้ว และหลวงพ่อทับ วัดทอง ทั้งสามท่านก็ยังเคารพนับถือหลวงพ่อเนียมเช่นกันครับ
ในช่วงเวลาที่หลวงพ่อท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนั้น มีผู้คนมากมายที่เดินทางมาหาท่านเพื่อขอให้ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย โดยใช้ยาสมุนไพร น้ำมนต์ และอาคมของท่าน ซึ่งผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการรักษาโรคหมาบ้าและการถูกงูพิษกัด เนื่องจากน้ำมนต์ของท่านมีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ในช่วงนั้นวัดน้อยมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า วิชาธรรมกายจากสายหลวงพ่อสด และวิชามโนมยิทธิจากสายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ มีต้นกำเนิดมาจากหลวงพ่อเนียม เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันในด้านญาณสมาธิด้วยครับ
หลวงพ่อเนียม ท่านได้ถึงแก่มรณภาพไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 ซึ่งตรงกับช่วงปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีหลังจากท่านได้จากไป แต่ชาวเรือที่ล่องผ่านหน้าวัดยังคงมีความเชื่อและปฏิบัติในการวักน้ำจากหน้าวัดมาลูบหัวเพื่อบูชาแทนน้ำมนต์ โดยเชื่อว่าพุทธานุภาพของหลวงพ่อยังคงอยู่เช่นเดิม
กุฏิพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเนียม ธัมมโชติ
ภายในวัดดังแห่งเมืองสุพรรณ แห่งนี้มี กุฏิพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเนียม ธัมมโชติ อยู่ด้วยครับ ซึ่งภายในกุฏินั้นจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัว หลวงพ่อเนียม โดยเป็นที่เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่า หลวงพ่อเนียม ท่านได้มรณภาพในลักษณะเหมือนพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งท่านเป็นพระสงฆ์องค์แรกของประเทศไทยที่มีการมรณภาพเช่นนี้ครับ
สำหรับศาสนสถานอื่น ๆ ที่เชื่อว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยหลวงพ่อเนียม ได้แก่ มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท, วิหารที่มีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่, และศาลาข้างสระน้ำ นับว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับหลวงพ่อเนียมและวัดน้อยบางปลาม้าแห่งนี้ หากมีโอกาสหรือวันว่าง ๆ ก็แนะนำให้ไปเยี่ยมชมกันนะครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ