หากคุณเป็นสายมูเตลูตัวจริง หรือแค่กำลังมองหาสถานที่ไหว้พระเสริมสิริมงคลในเมือง ศาลเจ้าโจวซือกง คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! ตั้งอยู่ในย่านตลาดที่คึกคัก ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ ที่ทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวให้ความนิยมอย่างต่อเนื่อง หาก หวยสด ใครที่สนใจอยากทำความรู้จักกับ ที่เที่ยวตลาดน้อย แห่งนี้ให้มากขึ้น ตามเรามาดูกันเลย
ศาลเจ้าโจวซือกง (วัดซุนเล่งยี่) จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ศาลเจ้าโจวซือกง หรือ วัดซุนเล่งยี่ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีความสำคัญอย่างยิ่งของชาวจีนฮกเกี้ยนในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1804 (พ.ศ. 2347) ตั้งอยู่ในย่านตลาดน้อย ซอยวานิช 2 กรุงเทพมหานคร โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระเซ่งจุ๊ยจ้อซือ (清水祖師) เทพประจำเมืองที่ชาวฮกเกี้ยนให้ความเคารพศรัทธาอย่างสูง และนอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ที่ผู้คนสักการะกันอย่างกว้างขวาง เช่น พระไทจื่อเอี๋ย, เจ้าพ่อกวนอู , เจ้าแม่ทับทิม, เจ้าพ่อเสือ เป็นต้น
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าได้รับอิทธิพลจากยุคปลายราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1589-1911) แม้จะมีการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง แต่ก็ยังคงรักษาแบบแผนดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะหลังคาทรงซานเหมินติ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ และสันหลังคาที่ประดับด้วยมังกรคู่ชูลูกแก้ว และหงส์คู่ชูดอกโบตั๋น ลวดลายประดับประดาต่าง ๆ อีกทั้งภายในศาลเจ้าถูกออกแบบอย่างประณีตงดงาม ตามคติความเชื่อจีน
จุดไฮไลท์ที่น่าสนใจ
เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณหน้า วัดซุนเล่งยี่ วัดเก่าแก่ สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ “สิงห์โตจีนคู่” ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าประตู เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และอำนาจ เป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งมวลตามความเชื่อของชาวจีน โดยสิงห์ตัวผู้จะอยู่ด้านซ้ายมือของทางเข้า ส่วนตัวเมียจะอยู่ทางขวามือ ทำหน้าที่ปกปักรักษา ป้องกันภัยร้ายและสิ่งไม่ดีไม่ให้ล่วงล้ำเข้าสู่ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และเมื่อเราเดินลึกเข้าไปจะพบกับห้องโถงใหญ่ที่ประดิษฐาน “หลวงปู่โจวซือกง” เทพเจ้าประจำศาลผู้เป็นที่เคารพสูงสุดในหมู่ชาวจีนฮกเกี้ยน ลักษณะเด่นขององค์หลวงปู่คือเนื้อองค์มีสีเปลือกมังคุด ห่มคลุมด้วยจีวรสีเหลืองอร่ามแบบพระนิกายจีน เป็นที่เคารพบูชาอย่างยิ่งในเรื่องความเมตตาและการคุ้มครองผู้ศรัทธา
ถัดมาไม่ไกลคือบริเวณที่ประดิษฐาน “พระสังกัจจายน์” พระอรหันต์ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ โชคลาภ และความสุข ความเชื่อของผู้ศรัทธาคือ หากได้บูชาด้วยใจบริสุทธิ์ ย่อมนำมาซึ่งปัญญา ลาภ ยศ และความรุ่งเรืองในชีวิต นอกจากนี้ ยังมีพระประธาน 3 องค์ประดิษฐานอยู่ด้านหลัง ได้แก่ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) พระอมิตาภพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทั้งสามองค์นี้ต่างเป็นที่เคารพในฐานะผู้โปรดสัตว์และนำทางสู่ปัญญาและความหลุดพ้น
นอกจากนี้ภายในวัดจีนก็ยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตา ที่เชื่อกันว่าใครมากราบไหว้ขอพรด้วยความตั้งมั่นในความดี พรนั้นมักสัมฤทธิ์ผลสมปรารถนาเสมอ พร้อมคำสวด “นะโมกวงซิอิม ผ่อสัก” ที่เปล่งออกด้วยศรัทธา อีกด้านหนึ่งภายในศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานของ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ผู้ศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน มีชื่อเสียงเรื่องความสำเร็จในคำบนบานศาลกล่าว และเป็นที่พึ่งทางใจของผู้ศรัทธามายาวนาน ถัดจากนั้นยังมีองค์ไฉซิ้งเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภและเงินทองตามความเชื่อของจีน ซึ่งผู้คนมากมายเดินทางมากราบไหว้เพื่อขอความมั่งคั่งในชีวิต
การเดินทาง
สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปศาลเจ้า สามารถไปได้อย่างสะดวกโดยรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีหัวลำโพง (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 10-15 นาที หรือนั่งแท็กซี่เข้าซอยวานิช 2 ก็ได้ หากเดินทางโดยรถเมล์สามารถลงบริเวณถนนเจริญกรุง แล้วเดินเข้าซอยเช่นกัน หรือหากขับรถส่วนตัว ควรหาที่จอดในบริเวณใกล้เคียง แล้วเดินเข้าศาลเจ้าเพราะถนนในซอยค่อนข้างแคบ
ศาลเจ้า โจวซือกง นับได้ว่า นับได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมสายมู ในการขอพรเรื่อง สุขภาพ โชคลาภ และการงาน โดยเฉพาะในช่วงต้นปีหรือวันสำคัญของจีน จะมีผู้คนหลั่งไหลกันมาอย่างไม่ขาดสาย นอกจากเป็นสถานที่ทางศาสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมจีนในประเทศไทยอีกด้วย สำหรับวันนี้เราต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าเราจะพาเดินทางไปเที่ยวที่ไหนนั้น อย่าลืมกลับมาติดตามชมสนใจสมัครสมาชิกเว็บหวยสด