นักบุญเดนิส (Saint Denis) เป็นนักบุญที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของคริสต์ศาสนา ด้วยเรื่องราวอันน่าทึ่งเกี่ยวกับการถูกประหารชีวิตของท่าน แต่ท่านกลับสามารถหยิบศีรษะของตนเองขึ้นมาและเดินเทศนาต่อไปได้อีกหลายไมล์ ก่อนที่จะสิ้นชีวิต วันนี้เราจะมาช่วยตอบคำถามว่าเซนต์เดนิสคือใคร และทำไมถึงมีผู้คนจำนวนมากที่ศรัทธาในตัวท่านครับ
นักบุญเดนิส คือใคร
มีความเชื่อว่า เซนต์บุญเดนิส เป็นบาทหลวงจากเกาหลีที่เดินทางมาที่แคว้นกาเลีย (Gaul) ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศฝรั่งเศส เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ท่านได้กลายเป็นอัครสังฆราชองค์แรกของปารีส และด้วยความศรัทธาที่มั่นคง ทำให้ท่านถูกจักรพรรดิโรมันสั่งประหารชีวิต
เรื่องราวที่ทำให้ท่านเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือ หลังจากที่เซนต์บุญเดนิสถูกประหารศีรษะ ท่านกลับไม่สิ้นชีวิตทันที ท่านสามารถหยิบศีรษะของตนเองขึ้นมาและเดินเทศนาต่อไปได้อีกหลายไมล์ ก่อนที่จะถึงจุดที่ท่านเสียชีวิตจริง ซึ่งภายหลังได้มีการสร้างมหาวิหารแซ็ง-เดอนี (Basilica of Saint Denis) ขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงท่าน
ตำนานนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวฝรั่งเศสที่ให้ความเคารพและนับถือท่านอย่างสูง เซนต์บุญเดนิสมักถูกนำเสนอในภาพวาดหรือรูปปั้น โดยมักจะเห็นท่านถือศีรษะของตนเอง พร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความสงบและศรัทธาอย่างลึกซึ้ง
เรื่องราวของ เซนต์บุญเดนิส สะท้อนถึงความศรัทธาที่แน่วแน่และความรักในพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่กว่าความตาย เซนต์บุญเดนิสได้รับการยกย่องเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของประเทศฝรั่งเศส และมหาวิหารแซ็ง-เดอนีถือเป็นสถานที่ฝังพระศพของพระมหากษัตริย์และพระราชินีหลายพระองค์ของฝรั่งเศส เรื่องราวของท่านได้รับการสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ประติมากรรม หรือวรรณกรรมต่างๆ
รูปปั้นของเซนต์บุญเดนิสมักถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่โดดเด่น โดยมีการถือศีรษะของตนเอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอัศจรรย์และความศรัทธาอันลึกซึ้งของท่าน รูปปั้นเหล่านี้มักตั้งอยู่ในโบสถ์ มหาวิหาร หรือสถานที่สำคัญทางศาสนา เพื่อเป็นการระลึกถึงท่านและให้ผู้คนได้มีโอกาสกราบไหว้
มหาวิหารแซ็ง-เดอนี สถานที่ฝังศพ เซนต์เดนิส
มหาวิหารแซ็ง-เดอนี (ฝรั่งเศส: Basilique Saint-Denis) เดิมเป็นอารามที่เรียกว่า อารามแซ็ง-เดอนี ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแซ็ง-เดอนี ทางตอนเหนือของปารีส ต่อมาในปี ค.ศ. 1966 ได้รับการยกสถานะเป็นอาสนวิหารประจำมุขมณฑลแซ็ง-เดอนี มหาวิหารแห่งนี้มีความสำคัญทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส
มหาวิหารแซ็ง-เดอนี ถูกก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 7 โดยพระเจ้าดาโกแบร์ที่ 1 บนสถานที่ซึ่งเป็นที่ฝังศพของเซนต์บุญเดนิส นักบุญผู้เป็นองค์อุปถัมภ์ของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในสามองค์ มหาวิหารนี้ได้กลายเป็นจุดหมายสำหรับการแสวงบุญและเป็นสถานที่บรรจุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสเกือบทุกพระองค์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถึง 18 รวมถึงบางพระองค์จากก่อนหน้านั้น (แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่สถานที่สำหรับพระราชพิธีราชาภิเษก ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิหารแร็งส์ แต่พระราชพิธีราชาภิเษกพระราชินีมักจัดที่นี่)
มหาวิหารแห่งนี้ จึงกลายเป็นโครงสร้างที่มีความซับซ้อนอย่างมาก ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 อธิการซูว์เฌได้สร้างส่วนหนึ่งของมหาวิหารใหม่โดยใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ทันสมัยสำหรับยุคนั้น พร้อมทั้งนำการตกแต่งจากสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ มาใช้ การก่อสร้างในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างสถาปัตยกรรมกอทิกที่แท้จริงเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ มหาวิหารยังเป็นตัวอย่างที่สำคัญของสถาปัตยกรรมแรยอน็อง และได้กลายเป็นแบบอย่างในการก่อสร้างมหาวิหารและแอบบีย์อื่น ๆ ในภูมิภาคตอนเหนือของฝรั่งเศส อังกฤษ และประเทศอื่น ๆ ต่อมา
มหาวิหารแซ็ง-เดอนี ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในด้านสถาปัตยกรรม เนื่องจากเป็นสิ่งก่อสร้างแรกที่ออกแบบและสร้างขึ้นในรูปแบบกอธิค โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านโครงสร้างและลักษณะการก่อสร้างจากสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ไปสู่สถาปัตยกรรมกอธิค ก่อนที่คำว่า “กอทิก” จะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย สถาปัตยกรรมนี้ในช่วงแรกถูกเรียกว่า “แบบฝรั่งเศส” (The French Style หรือ Opus Francigenum)
แผนผังของมหาวิหารในปัจจุบันเป็นรูปแบบกางเขนแบบ “บาซิลิกา” ซึ่งมีทางเดินกลางที่สูงกว่าทางเดินข้าง โดยมีหน้าต่างชั้นบนล้อมรอบตัวอาคาร ทางด้านเหนือมีทางเดินข้างเพิ่มเติมอีกหนึ่งทางที่มีชาเปลหรือคูหาสวดมนต์เรียงรายอยู่ ด้านหน้าของโบสถ์มีประตูทางเข้าสามบาน พร้อมด้วยหน้าต่างกุหลาบเหนือประตู และหอหนึ่งหอที่ตั้งอยู่ทางด้านใต้ ส่วนทางด้านตะวันออกบริเวณพิธีที่สร้างเหนือคริพต์มีจรมุขและชาเปลดาวกระจาย (chevette) ซึ่งประกอบด้วยชาเปลเก้าชาเปลที่กระจายออกจากทางเดินรอบมุข
นักบุญเดนิส เป็นนักบุญที่มีเรื่องราวอันน่าทึ่งและได้รับการเคารพอย่างสูงในประวัติศาสตร์ของคริสต์ศาสนา เรื่องราวของท่านได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก และรูปปั้นของท่านยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความศรัทธาและความมั่นคงในพระเจ้าอีกด้วย สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ